
ความแตกต่างระหว่างสายรัดแป้งและสายรัดพลาสติกล้วน
ในบทความนี้เราจะพาท่านมาพูดถึงความคุ้มค่าและความแตกต่างระหว่างสายรัดแป้งและสายรัดพลาสติกล้วน การใช้งานแบบไหนที่คุ้มค่ากว่ากัน ?
สายรัดพลาสติก PP
สายรัดพลาสติก PP คือ สายรัดที่ได้รับการผลิตมากจากเม็ดพลาสติก โพลิโพรพิลีน (Polypropylene) ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพสูง มีความแข็งแรงมาก พลาสติกชนิดนี้จะมีความใส น้ำหนักเบาสามารถทนทานต่อแรกกระแทก และแรงดึงได้อย่างดีเยี่ยมแต่มีความยืดหยุ่นน้อย สายรัดพลาสติก PP มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษที่ทนทานได้ดีต่อสภาพอากาศ และที่สำคัญสายรัดพลาสติกจะไม่ดูดซึมน้ำ ไม่ขึ้นรา จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้งานในการรัดบรรจุภัณฑ์ กล่องและวัสดุอื่นๆ
สายรัดพลาสติกคือสายรัดที่ผลิตขึ้นมาโดยการใช้เม็ดพลาสติกผสมแป้งหรือแคลเซียม
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดต้นทุนการผลิตที่จะทำให้ได้น้ำหนักที่เท่ากันกับสายรัดที่ผลิตขึ้นมาจากเม็ดพลาสติกล้วนเพื่อขายได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด แต่ผลเสียที่ตามมานั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน
ข้อเสียของสายรัดแป้ง
- สายรัดที่ผลิตด้วยการผสมแป้งนั้นจะมีความยาวที่น้อยกว่าในน้ำหนักที่เท่ากันกับสายรัดที่ผลิตขึ้นมาจากเม็ดพลาสติกล้วน ทำให้สายรัดพลาสติกล้วนมีความยาวกว่าและมีปริมาณที่มากกว่า
- สายรัดที่ผลิตด้วยการผสมแป้งนั้นเวลานำไปใช้กับเครื่องรัดกล่องกึ่งอัตโนมัติจะทำให้สายรัดหลุดออกจากกันง่ายหรือรัดไม่อยู่ สาเหตุก็เพราะว่าคุณสมบัติของแป้งเมื่อเจอกับความร้อนจะไม่สามารถยึดติดกันได้ สิ่งที่ติดก็คือพื้นผิวของสายรัดที่เป็นพลาสติกเพียงส่วนด้านบนเท่านั้น ไม่ได้ติดแนบชิดเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนสายรัดพลาสติกล้วน
- สายรัดที่ผลิตมาจากเม็ดพลาสติกล้วนนั้น เวลาซีลความร้อนโดยเครื่องแพค เนื้อของพลาสติก จะติดเป็นเนื้อเดียวกันได้ดี การซีลติดที่แน่นทําให้การรัดวัสดุสิ่งของไม่หลุดออกง่าย
- สายรัดที่ผลิตด้วยการผสมแป้งนั้นจะทนแรงดึงได้น้อยกว่าและขาดง่ายกว่าสายรัดที่ผลิตมาจากเม็ดพลาสติกล้วน
- หากใช้สายรัดแป้งกับเครื่องรัดกล่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ความคมของใบมีดหมดอายุการใช้งานก่อนเวลาอันควร เนื่องจากใบมีดแทนที่จะตัดพลาสติกกับต้องมาตัดแคลเซียมหรือแป้งซึ่งมีความแข็งกว่าพลาสติกอย่างมาก
ความแตกต่างระหว่างสายรัดแป้งและสายรัดพลาสติกล้วน
- สายรัดแป้งคือสายรัดที่ผสมแคลเซียมลงไปเพื่อลดต้นทุน และคุณภาพในการผลิต
- สายรัดที่ผลิตจากพลาสติกล้วน จะให้ความยาวของสายรัดมากกว่า สายรัดที่ผลิตโดยการ ผสมแป้งเข้าไปด้วย ในน้ำหนักที่เท่ากัน
- สายรัดที่ผลิตโดยการผสมแป้งเข้าไปด้วย จะมีปัญหาเรื่อง ความเหนียว แรงดึง และการยึดตัวของสายรัด โดยจะรัดไม่ค่อยติด เวลาดึงสายรัดมักจะหลุดออกจากวัสดุได้ง่าย
- วิธีการดูสายรัดที่ผสมแป้งลงไปในการผลิตคือ สายจะมีความหนากว่าและเมื่อฉีกสายออกจากกันแล้วข้างในของสายรัดจะมีสีขาว
- การเลือกซื้อสายรัดโดยพิจารณาที่ราคาเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ได้ราคาถูกอย่างที่คิด เพราะถ้าเทียบราคากับความยาว และการสูญเสียของสายรัดแล้ว สายรัดพลาสติกล้วน จะถูกกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ
- การใช้สายรัดที่ได้มาตรฐาน จะไม่พบกับปัญหาที่ตามมาของวัสดุที่ต้องการแพค และตัวของเครื่องจักรของท่านเอง
- การใช้สายรัดแป้งจะทำให้ใบมีดของเครื่องรัดกล่องนั้นเสื่อมสภาพและอายุการใช้งานอย่างรวดเร็ว เพราะใบมีดนั้นแทนที่จะตัดพลาสติกกับตัดแคลเซียมแทน
การเลือกซื้อสายรัดพลาสติกในการใช้งาน
หลายท่านที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเลือกซื้อสายรัดพลาสติกเพื่อนําไปใช้ ไม่ว่าจะใช้งานกับเครื่องรัดกล่องหรือเครื่องมือโยกก็ตาม
ข้อแนะนําสําหรับการเลือกซื้อสายรัดพลาสติกให้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- การทดสอบความเหนียวของสายรัด การทดสอบง่ายๆก็คือ ลองแพคสินค้า แล้วยกสินค้าขึ้นโดยดึงที่สายรัดขึ้นมา ดูว่า สายรัดขาด หรือยืดย้วยหรือไม่ ถ้าไม่ขาดก็ถือว่าน้ำหนักสินค้าของท่านกับสายรัดม้วนนั้นใช้ได้
- การทดสอบการซีลติดของสายรัด
- ความยาวของสายรัดต่อน้ำหนักที่เท่ากันในแต่ละม้วน สายรัดพลาสติกล้วนจะมีความยาวมากกว่าสายรัดแป้งในขณะที่มีน้ำหนักที่เท่ากัน (สามารถดูได้จากขนาดของสายรัดพลาสติกล้วนจะมีขนาดม้วนที่ใหญ่กว่าสายรัดที่ผสมแป้งในน้ำหนักที่เท่ากัน)
” ดังนั้นหากคำนึงถึงความคุ้มค่าแล้ว สายรัดพลาสติกล้วนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการใช้งาน “